Korean Language in Tourism
คำพูดพื้นฐาน |
เป็นประโยคสำหรับคนทุกคนที่มีใจรักเกาหลีเลยนะคะ ใช้พูดได้ในหลายๆ โอกาสไม่ว่าจะเป็นพบกันครั้งแรกหรือฝึกการสนทนาเบื้องต้น เป็นคำที่ง่ายมากๆ เลยค่ะ หากนำไปใช้ร่วมกับชีวิตประจำวันจะทำให้จำง่ายขึ้น เป็นคำทั่วไปที่ควรจำให้ได้นะคะ
|
การซื้อของ |
ใช้ในกรณีที่คุณเดินเข้าไปในร้านค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งมีสินค้ามากมายไปหมด ถ้าหากคนขายทักทายเราก็ให้ส่งยิ้มแล้วถามกลับเลยค่ะ ไม่ว่าเขาจะทักมาว่ายังไง(ซึ่งบางทีเราอาจฟังไม่รู้เรื่อง) ประมาณว่า ขอโทษนะคะ มีเจ้านี่ไหมคะ? ไม่รู้ว่าแม่ค้าเกาหลีคนนั้นจะใจดีหรือเปล่า เพราะฉะนั้นถามแล้วก็ควรซื้อนะคะ
คำตอบที่ได้ก็จะเป็น 있어요. (อิซซอโย) มีค่ะ หรือ 아니오. (อานีโอ) ไม่มีค่ะ
พอได้พบกับสิ่งที่ต้องการแล้วเห็นว่ามันถูกใจก็ถามราคาเลยค่ะ สินค้าแต่ละอย่างนั้นบางอย่างก็จะมีราคาติดอยู่บนสินค้า เป็นป้ายแปะอยู่ที่ชั้นวาง หรืออาจจะมีราคากำกับไว้ตรงไหนสักที่ แต่หากเราสนทนากับคนขายอยู่สามารถถามเขาได้เลยค่ะไม่ต้องมัวหาป้าย
ดูสินค้าหลากหลายอย่างแล้ว ถูกใจก็เยอะแยะ แต่ที่จะซื้อน่ะมีแค่อย่างเดียวนี่ ให้ประโยคนี้ในการเจาะจงไปยังของที่จะเอาค่ะ เช่น ดูทั้งเสื้อ กระโปรง หมวก ผ้าพันคอ ถุงเท้า กางเกง แต่จะเอาแค่เสื้อ ก็บอกไปเลยว่างั้นขอเสื้อค่ะ หมายความว่าจะเอาแค่เสื้อนั่นเอง (ควรระบุด้วยนะคะว่าจะเอาเสื้อน่ะเสื้อไหน)
จ่ายเงินไปแล้วลูกค้าคือพระเจ้า หากของที่ซื้อไปจะนำไปฝากใครเป็นของขวัญก็บอกคนขายไปเลยว่าช่วยห่อให้ด้วยค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านนะคะ บางร้านไม่คิดค่าห่อแล้วยังมีของแถมเป็นโบว์หรือสติ๊กเกอร์ติดมาให้อีก แต่บางร้านก็อาจจะคิดค่าห่อด้วยค่ะ
คำศัพท์เพิ่มเติม
|
การเดินทาง |
ควรถามบุคคลที่ให้บริการด้านนี้จะให้คำตอบได้ดีที่สุดค่ะ เช่น หากจะไปด้วยรถไฟฟ้าก็ถามพนักงานรถไฟฟ้าที่ให้บริการตั๋วหรือคอยเดินตรวจแถวๆ นั้นได้ว่าที่นี่อยู่ที่ไหน หากไม่มั่นใจก็ถามต่อค่ะ
ใกล้หรือไกลก็แล้วแต่ หากเดินไปผิดทางก็แย่แน่นอน ดังนั้นคำถามนี้สำคัญที่สุดค่ะ คำตอบที่ได้จะไม่แน่นอน แล้วแต่ว่าจะบอกเป็นตำแหน่งจุดสำคัญ ตรงไปซ้ายขวา หรือชี้ให้เห็นๆ กันไปเลยว่าใกล้แค่นี้เอง และบางทีอาจจะบอกมาเป็นชื่อย่าน ชื่อสถานีรถไฟ หรือชื่อถนนเมืองต่างๆ ก็ได้ค่ะ
คำศัพท์เพิ่มเติม
ตัวอย่างบทสนทนาการเดินทาง
A: 실례합니다. 음식점이 여기에서 멉니까? (ชิล-รเยฮัมนีดา. อึมซิกชอมี ยอกีเอซอ มอบนีก๊ะ) = ขอโทษนะคะ ร้านอาหารอยู่ไกลจากที่นี่หรือเปล่าคะ?
B: 아니요. 가깝습니다. (อานีโย คากับซึมนีดา) ไม่ค่ะ อยู่ใกล้
A: 어떻게 가요? (ออต็อกเค คาโย๊) = ไปยังไงคะ?
B: 걷다. 똑바로 그리고 왼쪽예요. (คัดด่ะ. ตกบาโร คือรีโก เวนจ๊กเยโย) = เดินไปค่ะ ตรงไปซ้ายมือ
A: 감사합니다. (คัมซาฮัมนีดา) = ขอบคุณค่ะ
B: 괜찮습니다. (แควนชันซึมนีดา) = ไม่เป็นไรค่ะ
|
พอจะเข้าใจบ้างไหมคะทุกคน? สังเกตได้ว่าแต่ละอย่างนั้นต้องพยายามรู้คำศัพท์ต่างๆ ไว้ด้วยนะคะ แต่เมื่อถึงสถานการณ์นั้นจริงๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเรานั่นแหละค่ะ อยากได้อะไรก็อาจจะชี้เอาหรือหยิบขึ้นมาเลย อยากไปไหนก็ลองสอบถามบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้วยภาษาอังกฤษดูก็ได้นะคะ เพราะถ้าหากถามกับคนทั่วไปอาจจะไม่สนใจเราหรือฟังเราไม่รู้เรื่องนั่นเองค่ะ แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคนัก เพราะปัจจุบันนี้เกาหลีใต้ก็เป็นประเทศที่คนไทยไปท่องเที่ยวเยอะมาก ไหนจะคนชาติอื่นๆ ที่หลงใหลในกระแสเกาหลีอีก เรื่องการให้บริการนักท่องเที่ยวนี่ไม่น่าจะบกพร่องอะไรค่ะสุดท้ายนี้ฝากคำพูดเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการพบเจอผู้คน เป็นคำพูดทั่วไปให้เอาไปใช้ได้หลายโอกาสแล้วกันค่ะ เที่ยวเกาหลีให้สนุกนะคะ |
ในกรณีที่คู่สนทนาพูดภาษาอังกฤษได้ก็จะตอบว่า할수 있어요. (ฮัลซู อิซซอโย) แปลว่า พูดได้ค่ะ แต่ในกรณีที่พูดไม่ได้ ก็จะตอบว่า 못해요. (มทแทโย) ที่แปลว่า ไม่ได้ค่ะ แล้วก็ต้องงมภาษาเกาหลีต่อไป~
ประโยคนี้อาจพบเห็นได้ตามป้ายต่างๆ ในหลายสถานที่ หรืออาจได้ยินจากคนเกาหลีที่มีจิตสำนึกค่ะ (ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นคนกวาดขยะมาตักเตือนก็ได้นะคะ) ดังนั้นหากได้ยินประโยคนี้แล้ว เขาขอร้องด้วยความสุภาพ เราเป็นฝ่ายไปเยี่ยมเยือนประเทศเขาก็ช่วยกันรักษาความสะอาดนะคะ ทั้งประเทศเราและประเทศเขาเลยนะ
เอาไว้แสดงความใสซื่อของเราค่ะ (?) การขอร้องแบบน่ารักๆ ทำหน้างงๆ แล้วพูดว่า ‘กรุณาพูดช้าๆ หน่อยเถอะนะคะ’ แบบนี้นี่ดูน่ารักไม่หยอกเลยนะคะ ยกเว้นว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นเรื่องจริงจัง กำลังดุเดือดหรือเร่งรีบ อย่างเช่นว่ามีรถเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ยังขอให้พูดช้าๆ หน่อยสิค้า ฟังไม่ทันแบบนี้คงจะไม่ไหวล่ะค่ะ
คำนี้เอาไปใช้ในร้านอาหารดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะแม้แต่ในไทยเองก็แปลกๆ เหมือนกันถ้าเข้าไปนั่งแล้วบอกว่าหิว ดังนั้นถ้าจะสั่งอาหารให้ใช้คำเดียวกับที่ไว้ตกลงซื้อสิ่งของนั้นก็คือ คำนาม + 주세요. (…จูเซโย) = ขอ + คำนาม + ค่ะ
แต่ควรบอกจำนวนและขนาดไปด้วยว่าอยากทานกี่ชามกี่จาน จานขนาดกลางหรือใหญ่ ส่วนคำว่าหิวนี้เอาไว้ใช้พูดกับไกด์ นักท่องเที่ยว หรือคนเกาหลีทั่วไปดีกว่าค่ะ หากเดินช็อปเสียจนลืมทานของอร่อยๆ ก็บอกไปเลยว่าหิวอ่ะ ทีนี้ก็ไปหาของกินกันได้เลย อย่าพลาดเชียวนะคะ ย่านของกินนี่ใช่เล่นเลยนะ
เหมาะกับตอนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์หรือเมืองเก่าค่ะ อาจมีร้านให้ใส่เพื่อถ่ายรูปก็ได้ เมื่อมาถึงเกาหลีแล้วก็ลองใส่ชุดฮันบกเลยค่ะ
ใช้ในโอกาสจะจากกันแล้วค่ะ แต่ไม่ใช่ขั้นสุภาพนะคะ ดังนั้นจึงเหมาะที่จะเอาไว้พูดกับคนที่พอจะรู้จักกันมากนิดนึงก็ดีค่ะ ประมาณว่า “แล้วเจอกันอีกครั้งนะ” สำหรับคืนนี้ขอไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้เช้าก็ตื่นมาใหม่ไปลุยสวนสนุกกันต่อ เย้~
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น