๋Jeollanam-do
จังหวัดช็อลลาใต้ เป็นจังหวัดในเกาหลีใต้ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ โดยมีฐานะเป็นจังหวัดตั้งแต่ปี 2439 โดยแยกออกจากจังหวัดช็อลลาเดิมทางด้านใต้ และยังคงเป็นจังหวัดของเกาหลีจนกระทั่งมีการแบ่งเกาหลีในปี 2488 และหลังจากนั้นก็หลายเป็นส่วนหนึ่งของเกาหลีใต้ โดยมีควังจูเป็นเมืองเอกของจังหวัด จนกระทั่งมีการย้ายศาลากลางจังหวัดไปยังตอนใต้ของหมู่บ้านนามัก เมืองชนบทมูอัน ในปี 2548
1.วัดซอนัมซา – Seonamsa Temple – Suncheon (선암사-순천)
วัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติที่สวยงามมาก เมื่อเดินผ่านประตูทางเข้าวัดนั้นจะเดินผ่านเส้นทางที่รายล้อมไปป่าไม้และธารน้ำธรรมชาติประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงอาคารหลักของวัด ในระหว่างทางเดินนั้น จะผ่านสะพานหิน 2 อัน รูปทรงคล้ายกับรุ้งกินน้ำ ซึ่งเป็นสะพานหินที่สวยงามอันดับต้นๆของเกาหลี เนื่องจากบรรยากาศโดยรอบนั้นจะเป็นป่าไม้ และเมื่อมองลอดสะพานก็จะมองเห็นศาลาริมน้ำ ดูเหมือนกับภาพเขียนที่งดงาม จึงได้ถูกเลือกเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องด้วยกัน
การเข้าชม
ค่าเข้าชม:
เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด:
6.00-18.00
วันปิดทำการ:
เปิดทุกวัน
2.วัดแบ็คยังซา – Baekyangsa Temple (고불총림 백양사)
วัดนี้มีชื่อเสียงในเรื่องธรรมชาติที่สวยงาม เนื่องจากตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาของอุทยานแห่งชาติแนจังซานและในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะยิ่งสวยงามมาก เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังของเกาหลี บริเวณทั่วทั้งวัดร่วมทั้งเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ใบไม้เกือบทั่วทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและเหลือง นอกจากนี้ยังมีศาลากลางน้ำ ที่บริเวณรอบๆก็จะมีใบไม้เปลี่ยนสีเช่นกัน เมื่อน้ำนิ่งก็จะเห็นเป็นเงาสะท้อนกับผิวน้ำ
การเข้าชม
ค่าเข้าชม:
ผู้ใหญ่ 3,000 วอน/ เด็ก 1,200 วอน/ เด็ก 700 วอน
เวลาเปิด-ปิด:
8.00-17.00
วันปิดทำการ:
เปิดทุกวัน
วิธีการเดินทาง
จากสถานีรถบัส Gwangju Central Bus Terminal (U-Square) -> ขึ้นรถบัสไปยัง Baekyangsa Temple (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง, ราคาประมาณ 5,100 วอน)
3.เมืองถ่ายทำภาพยนตร์ซุนชอน – Suncheon Open Film Location (순천 드라마 촬영장)
เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และละครที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลี ประกอบด้วยบ้านเรือนอาคารมากกว่า 200 หลังคาเรือน ซึ่งมีประมาณ 3 หมู่บ้านในยุคสมัยที่แตกต่างกันในช่วงประมาณปีค.ศ. 1950 และ ค.ศ.1980 หรือประมาณช่วงของยุค 50S – 70S ภายในเมืองนั้นมีทั้ง โรงละครจำลองจุงอัง, สถานีดับเพลิง, โรงเบียร์เจอิล และร้านค้าต่างๆมากมาย ซึ่งให้อารมณ์ของเมืองเกาหลีสมัยก่อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังมีลักษณะเพิงกระท่อมแหล่งชุมชนแออัดในกรุงโซลช่วงปีค.ศ.1960S และในยุค 70S สุดท้ายคือลักษณะของบ้านตามชานเมืองกรุงโซลในปี 1980S จึงมีการใช้เมืองซุนชอนแห่งนี้เป็นที่่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องด้วยกัน ตัวอย่างเช่น “Inspiring Generation” , “Love and Ambition”, “East of Eden”, “Gangnam Blues” และ “Werewolf Boy”
นอกจากจะใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และละครแล้ว ยังได้เปิดให้คนทั่วไปได้เข้ามาเยี่ยมชมและเดินเที่ยวในเมืองแห่งนี้ด้วย ซึ่งได้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เมื่อได้มาเที่ยวแล้วจะหวนคิดถึงความหลังและความทรงจำเก่าๆ บรรยากาศเก่าๆในสมัยวัยเด็ก
สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่หนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่หวนคิดถึงความทรงจำเก่าๆในสมัยที่ตนเองยังเป็นเด็กหรือวัยรุ่น ทำให้คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เพลงเก่าๆในยุค 50S 60S และ 70S อันมีเอกลักษณ์และมนต์เสน่ห์ที่เฉพาะตัว ยังไม่รวมถึงนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวและชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวตามรอยละครหรือภาพยนตร์ที่ตนเองชื่นชอบอีกนับไม่ถ้วน
ค่าเข้าชม:
ผู้ใหญ่ 3,000 วอน/ เยาวชน 2,000 วอน/ เด็ก 1,000 วอน
เวลาเปิด-ปิด:
09:00-18:00
วันปิดทำการ:
วิธีการเดินทางเปิดทุกวัน
จากสถานี Seoul Central City Bus Terminal -> ขึ้นรถบัสไปยัง Suncheon -> ต่อรถบัสสาย 77, 99 หรือ 777 ลงที่ Suncheon Open Film Set
4.หมู่บ้านโบราณ ดัมยาง ชางพยอง – Damyang Changpyeong Samjinae Village (담양 창평 삼지내마을[슬로시티])
เป็นหมู่บ้าน slow city แห่งแรก เพราะเมื่อเทียบกับเมืองทั่วไป ที่ ดัมยาง-ชางพยอง แห่งนี้ ชาวเมืองยังคงใช้ชีวิตที่เรียบง่าย วัฒนธรรมและการเป็นอยู่ส่วนใหญ่ก็จะอิงธรรมชาติ จึงทำให้ผู้คนนิยมมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่หมู่บ้านนี้ เพราะนอกจากจะได้ใช้ชีวิตที่ไม่วุ่นวายแล้วก็ยังได้ชิมอาหารและขนมพื้นเมืองชื่อดัง Hangwa และ Ssalyeot ของที่นี่อีกด้วย
การเข้าชม
ค่าเข้าชม:
ฟรี
เวลาเปิด-ปิด:
6.00-18.00
วันปิดทำการ:
วิธีการเดินทางเปิดทุกวัน
จากสถานี Gwangju Station, ขึ้นรถบัสสาย 303 มาลงที่ Changpyeong Pachulso (창평파출소)
5.สวนทอลซาน – Dolsan Park (돌산공원)
เป็นสวนที่อยู่บนเกาะใกล้กับชายทะเล ต้องข้ามสะพานทอลซานซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่และเกาะเพื่อมายังสวนแห่งนี้ ภายในสวนจะมีร้านน้ำชาซึ่งเคยใช้เป็นฉากในการถ่ายทำละครเกาหลี เพราะสามารถมองเห็นวิวของสะพานทอลซานที่สวยงามได้จากจุดนี้ จึงทำให้เป็นจุดท่องเที่ยวที่นิยมเพราะได้นั่งจิบน้ำชาไปพร้อมกับชมวิวสวยๆ นอกร้านน้ำชาแล้วยังมีจุดชมวิวของสวนทอลซาน ซึ่งสามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินลับขอบฟ้าไปพร้อมกันสะพานทอลซานและยังมอลเห็นวิวยามค่ำคืนของเกาะ Janggundo Island อีกด้วย
การเข้าชม
ค่าเข้าชม:
เข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด:
เปิด 24 ชั่วโมง
วันปิดทำการ:
เปิดทุกวัน
วิธีการเดินทาง
จากสถานีรถบัส Yeosu Intercity Bus Termina, เดินข้ามถนนขึ้นรถบัสสาย 100, 102, 109, 111 หรือ 999 -> จากนั้นลงที่ป้าย Dolsan Park
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น