Gyeonggi-do

  ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คย็องกี

    จังหวัดคย็องกี เป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดในเกาหลีใต้ โดยมีซูว็อนเป็นเมืองเอกของจังหวัด กรุงโซลซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตั้งอยู่ใจกลางของจังหวัดนี้ แต่มีการปกครองแยกไปจากจังหวัดคย็องกี โดยมีฐานะเป็นการปกครองระดับจังหวัดในชื่อ นครพิเศษตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 อินช็อน เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ก็ตั้งอยู่บริเวณอ่าวของจังหวัดคย็องกี แต่ก็มีการปกครองแยกออกไปจากจังหวัดคย็องกีเช่นเดียวกับโซล โดยมีฐานะเป็นการปกครองระดับจังหวัด ในชื่อ มหานคร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 โดยสามเขตนี้ (จังหวัดคย็องกี นครพิเศษโซล และมหานครอินช็อน) มีพื้นที่รวมกัน 11,730 ตร.กม. และมีประชากรรวมกัน 22,766,850 คน (ปี พ.ศ. 2548) ถือเป็นจำนวนร้อยละ 48 ของประชากรทั่วทั้งเกาหลีใต้


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เอเวอร์แลนด์


1.สวนสนุก เอเวอร์แลนด์ (Everland, 에버랜드)
    เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่และดีที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลี ที่มีสิ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากโซนสวนสนุกอีกหลายอย่าง และยังมีการจัดงานเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปีอีกด้วย อยู่ที่เขต Yongin-si จังหวัด Gyeonggi-do
สวนสนุก เอเวอร์แลนด์ ประกอบไปด้วยโซนต่างๆดังนี้
– Magic Land
– European Adventure
– Zootopia หนึ่งในสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี มีสัตว์มากกว่า 2,000 ตัว จาก 200 กว่าสายพันธ์
– Lost Valley ที่จัดแสดงสัตว์แบบเปิดโล่ง สไตล์สวนสัตว์ ซาฟารี
– Plantopia
– งานเทศกาลต่างๆ เช่น Tulip Festival, Rose Festival, Summer Splash, Halloween Festival และ Romantic Illumination ที่จะเปิดไฟสว่างไสวในตอนกลางคืน
การเข้าชม
ค่าเข้าชม: แบบ 1 วัน - ผู้ใหญ่ 52,000 วอน / เด็ก 41,000 วอน
แบบช่วงกลางคืน(17:00 จนปิด) - ผู้ใหญ่ 43,000 วอน / เด็ก 34,000 วอน
แบบ 2 วัน - ผู้ใหญ่ 81,000 วอน / เด็ก 64,000 วอน
เวลาเปิด-ปิด: แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา เวลาเปิดประมาณ 09:00-10:00 และเวลาปิดอยู่ระหว่าง 20:00-22:00 สามารถเช็คเวลาเปิด/ปิดที่แน่นอนได้ที่
http://www.everland.com/web/multi/english/everland/everland_guide/hours/open_hour.html
วิธีการเดินทาง
จากสถานีรถไฟ Jeondae-Everland Station สาย Yongin EverLine ทางออกที่ 3 ให้ต่อรถ shuttle bus ที่จะไปสวนสนุก Everland มีรถวิ่งตั้งแต่ 05:30-23:30
ดูเพิ่มเติมได้ที่
http://www.everland.com/web/multi/english/everland/everland_guide/transportation/Transportation01.html


2.หมู่บ้านเกาหลีโบราณ(Korean Folk Village, 한국민속촌)
  ภายในมีบ้านสไตล์เกาหลีแบบโบราณจากยุคต่างๆโดยเฉพาะในยุคโจซอน มีบ้านมากกว่า 260 หลัง มีสินค้าแบบดั้งเดิมที่มาจากส่วนต่างๆของเกาหลี มีร้านขายของและร้านเวิคช้อปที่โชว์กระบวนการผลิตสินค้าแบบต่างๆ เช่นเสื้อผ้า, อาหาร และแบบบ้านในอดีต แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม
  นอกจากนี้ที่หมู่บ้านเกาหลีโบราณจะมีสวนสนุกที่มีธีมเป็นภูเขาไฟ ที่มีเพียงแค่แห่งเดียวในเกาหลี มีตลาดพื้นบ้าน ที่มีขายขนมและเครื่องแบบเกาหลีโบราณด้วย รวมทั้งพิพิธภัณท์พื้นบ้านและพิพิธภัณท์ศิลปะเกาหลีที่จะสามารถชม ขนบธรรมเนียมและประเพณีเก่าแก่ของเกาหลีได้
  ที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายทำทั้งภาพยนตร์และละครชื่อดังของเกาหลีหลายเรื่องด้วยเช่น My Love from the Star, Moon Embracing the Sun, Sungkyunkwan Scandal และยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในการถ่ายทำละครเรื่องดังในเมืองไทย แดจังกึม ด้วย

การเข้าชม

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่: 15,000 วอน / วัยรุ่น: 12,000 วอน / เด็ก: 10,000 วอน
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน
เดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน วันธรรมดา 09:30-18:00 / วันเสาร์-อาทิตย์ 09:30-18:30
[เดือนพฤษภาคม-เดือนกันยายน] ธรรมดา 09:30-18:30 / วันเสาร์-อาทิตย์ 09:30-19:00
[เดือนตุลาคม] ธรรมดา 09:30-18:00 / วันเสาร์-อาทิตย์ 09:30-18:30
[เดือนพฤศจิกายน-เดือนมกราคม] ธรรมดา 09:30-17:30 / วันเสาร์-อาทิตย์ 09:30-18:00
วิธีการเดินทาง

จากสถานีรถไฟใต้ดิน Gangnam Station สาย Seoul Subway 2 ทางออกที่ 10 หรือสถานี Sinnonhyeon Station สาย DX Subway Line ทางออกที่ 6 ให้ต่อรถบัสสาย 5001-1 หรือ 1560 ไปลงที่ด้านหน้าได้เลย



3.เขตชายแดน พันมุนจอม(Panmunjeom , 판문점)
  เป็นเขตชายแดนพิเศษระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้อยู่ห่างจากเมืองโซล(Seoul)ไปทางเหนือเพียง 50 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวของเขต DMZ(Demilitarized Zone) ที่เป็นที่นิยมที่สุดจุดหนึ่ง เพราะจะเป็นจุดที่จะมีทั้งทหารจากเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ ยืนประจัญหน้ากัน ห่างกันเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น จนเป็นจุดถ่ายทำภาพยนตร์, ละครและสารคดีหลายเรื่องเลยทีเดียว
  เขตชายแดน พันมุนจอม เป็นเขตชายแดนที่มีการรักษาการณ์ติดกันทั้ง 2 ประเทศ หรือเรียกว่า Joint Security Area (JSA) มีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มากเพราะเป็นเพียงจุดเดียวที่ทั้ง 2 ประเทศใช้เป็นสถานที่ในการเจรจาต่อรองต่างๆ เช่น การหยุดยิงในสงครามเกาหลีเมื่อปี 1953
  การเดินทางเที่ยวในเขต DMZ ส่วนใหญ่จะเป็นการมาเที่ยวกับทัวร์แบบ 1 วัน สามารถซื้อได้ตามโรงแรมทั่วไปในกรุงโซลเลย
* ใครจะมาเที่ยวที่นี่ ต้องระวังเรื่องการแต่งกาย เพราะเป็นสถานที่ละเอียดอ่อนต่อการเกิดสงครามมากที่สุดจุดหนึ่งของโลก สามารถสอบถามได้กับทัวร์ที่เราซื้อได้เลย

การเข้าชม

วันปิดทำการ: ปิดทุกวันอาทิตย์และวันหยุดเทศกาลต่างๆ
วิธีการเดินทาง

การเดินทางเที่ยวในเขต DMZ ส่วนใหญ่จะเป็นการมาเที่ยวกับทัวร์แบบ 1 วัน สามารถซื้อได้ตามโรงแรมทั่วไปในกรุงโซลเลย โดยเฉพาะการมาเที่ยวที่นี่จะต้องมากับทัวร์เท่านั้น


4.ป้อมปราการฮวาซอง(Hwaseong Fortress, 수원 화성)
  เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ตั้งแต่ยุคโจซอน(Joseon)สร้างขึ้นช่วงปีค.ศ. 1794-1796 เป็นป้อมปราการประจำเขต Suwon-si ของจังหวัดเคียงกีโด(Gyeonggi-do) เพื่อเป็นรากฐานสำหรับการสร้างเมืองใหม่ในบริเวณนี้ กำแพงของป้อมปราการมีความยาวถึง 5.5 กิโลเมตร มีประตู 4 ประตูในแต่ละทิศ และมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และงดงาม รวมทั้งศาลาที่ชื่อว่า Hwahongmun ด้วย
  ป้อมปราการฮวาซองถูกสร้างขึ้นด้วยอิฐโดยจะมีรูขนาดที่พอดีสำหรับใช้เป็นจุดยิงปืน หรือธนูได้ เชื่อกันว่าเป็นการสร้างที่มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุคนั้น และที่นี่ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางด้านประวัติศาสตร์เมื่อปีค.ศ. 1997 ด้วย ถึงแม้ว่าจะเคยผ่านการสู้รบและถูกทำลายไปหลายส่วนแต่ก็มีการบรูณะขึ้นใหม่ตามรูปแบบดั้งเดิม ปัจจุบันจะมีการแสดงหลายแบบที่บริเวณนี้ เช่นการเดินสวนสนามของทหารสมัยโบราณ เป็นต้น
 การเข้าชม

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 1,000 วอน / วัยรุ่น 700 วอน / เด็ก 500 วอน
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน
ช่วงฤดูร้อน: 09:00-18:00
ช่วงฤดูหนาว: 09:00-17:00
วิธีการเดินทาง

จากสถานีรถไฟใต้ดิน Suwon Station สาย Seoul Subway 1 ให้ต่อรถบัสสาย 2, 7, 7-2, 8, หรือ 13 แล้วลงที่ป้าย Jongno 4-geori (intersection) ก็จะถึง


5.หุบเขาศิลปะโพชอน(Pocheon Art Valley, 포천아트밸리)
   เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดัดแปลงมาจากเหมืองหินแกรนิตเก่า ที่มีลักษณะเป็นหุบเหว โดยนำเอาผลงานศิลปะและประติมากรรมมาสร้างและจัดสรรกันอย่างลงตัว อยู่ไม่ไกลจากกรุงโซลมากนัก ด้วยระยะทางแค่ 60 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้มีบรรยากาศแปลกใหม่ แตกต่างและสวยงาม มีละครซีรี่ย์เข้ามาถ่ายทำกันหลายเรื่อง จนมีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่กันมากขึ้นเรื่อยๆ
   หนึ่งในไฮไลท์ของที่นี่คือส่วนทะเลสาบที่มีน้ำในสีเขียวมรกต ตั้งอยู่ด้านบนของหุบเขาด้วยความสูง 340 เมตร การเดินทางขึ้นไปนั้นมีด้วยกัน 2 วิธีก็คือ การนั่งรถรางขึ้นไป(เสียค่าบริการในการขึ้น) และอีกวิธีหนึ่งก็คือการเดินเท้าขึ้นไปก็จะได้สัมผัสกับ ทัศนียภาพอย่างใกล้ชิด เมื่อขึ้นไปบนหุบเขาแล้วจะเห็นหน้าผาหินแกรนิตขนาดใหญ่โอบล้อมทะเลสาปสีเขียวมรกตที่มีน้ำใสเย็น ยิ่งในช่งค่ำนั้นจะมีการเปิดไฟเปลี่ยนสีไปมาแสงไฟหลากสีกระทบกับหินบนหน้าผาแสงสาดส่องกระทบลงบนผิวน้ำนั้นโรแมนติคสุดๆ

   นอกจากนี้ยังมีอะไรน่าสนใจอีกหลายๆอย่าง เช่น เป็นจุดถ่ายทำละครเกาหลีหลายเรื่อง เช่น Moon Lover, พิพิธภัณฑ์ดาราศาสตร์ที่มีหอดูดาวที่น่าสนใจจัดแสดงในห้องโถงจัดนิทรรศการซึ่งมีการแสดงและฉายภาพด้วยระบบ 4D ทำให้เห็นระบบสุริยะจักรวาลในรูปแบบท้องฟ้าจำลอง, พิพิธภัณฑ์จัดแสดงหินแกรนิต, ลานปติมากรรมหินแกรนิต, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ  และร้านขายของที่ระลึก
การเข้าชม
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 5,000 วอน, วัยรุ่น 3,000 วอน , เด็ก 1,500 วอน
Group : ผู้ใหญ่ 3,000 วอน, วัยรุ่น 2,000 วอน, เด็ก 1,000 วอน
ค่าบริการขึ้นรถราง:
ผู้ใหญ่ ไป กลับ 4,500 วอน, เที่ยวเดียว 3,500 วอน
วัยรุ่น ไปกลับ 3,500 วอน, เที่ยวเดียว 2,500 วอน
เด็ก ไป กลับ 2,500 วอน, เที่ยวเดียว 1,800 วอน
***ผู้ใหญ่ 19 ปีขึ้นไป, วัยรุ่น 13-18 ปี, เด็ก 7-12 ปี
***สำหรับ Group นั้น 20 คนขึ้นไป ,ผู้สูงอายุ คนพิการ และเด็กก่อนวัยเรียนเข้าชมฟรี(ต้องแสดงหลักฐาน เช่น พาสปอร์ต เป็นต้น)
เวลาเปิด-ปิด: ฤดูร้อน 09.00-22.00, ฤดูหนาว 09.00-21.00 , วันจันทร์ 09.00-19.00
วิธีการเดินทาง
นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 2 สีเขียว ลงสถานี Gangbyeon ทางออกที่ 4 แล้วไปต่อรถบัสที่ Dong Seoul Bus Terminal สาย 3000, 3001 ลงสถานี Pocheon Intercity Terminal ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 50 นาที จากนั้นให้ต่อรถเมล์สาย 87, 87-1 ไปลง Pocheon Art Valley ใช้เวลาเดินทาง 17 นาที



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้